เทคนิคการยื่นรีไฟแนนซ์ให้ผ่านชัวร์ๆ

คงมีหลายคนที่กำลังเจอกับปัญหาทางการเงินแล้วคิดจะรีไฟแนนซ์รถเพื่อเอาเงินก้อนมาหมุนใช้จ่าย แถมยังคงมีรถเอาไว้ขับได้ตามปกติ แอดมาขอแนะนำเทคนิคง่ายๆว่าจะทำอย่างไรให้ผ่าน ฉลุยและไม่ต้องเสียเวลารอคอยนานๆ

เอกสารรีไฟแนนซ์รถมีอะไรบ้าง ขั้นตอนและเงื่อนไขต่าง ๆ ยุ่งยากไหม มาศึกษาเทคนิคเหล่านี้ไปพร้อมกันได้เลย

💎เทคนิคการยื่นรีไฟแนนซ์รถให้ผ่านชัวร์ๆ

1. สร้างประวัติทางการเงินของตนเองให้น่าเชื่อถือ (Credit Bureau)

ผู้ที่คิดจะรีไฟแนนซ์รถเองต้องเริ่มจากการพยายามสร้างประวัติการเงินของตนเองให้น่าเชื่อถือ เพราะประวัติการชำระสินเชื่อ คือข้อมูลพื้นฐานที่จะบ่งบอกถึงความรับผิดชอบในภาระที่ลูกค้าได้ผูกพันไว้อย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ หรือการขอรีไฟแนนซ์ ดังนี้

ประวัติดี - จะช่วยให้อนุมัติไว และได้วงเงินสูง

ประวัติเสีย (ติดแบล็คลิส) –หากล่าช้าไม่เกิน 3 งวด สามารถขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ได้ แต่กรณีที่เกินกว่านั้น จะแนะนำให้หาผู้กู้แทน ก็สามารถทำได้เช่นกัน

⚙️ ข้อแนะนำเพิ่มเติม ให้แจ้งข้อมูลที่แท้จริง เพื่อเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์จะได้ให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง และช่วยดันเคสให้ผ่านได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

2. จัดเตรียมเอกสารแสดงรายได้ให้ครบถ้วน

การเตรียมเอกสารเกี่ยวกับรายได้ให้ครบถ้วน จะแสดงถึงความมั่นคง และ ความน่าเชื่อถือ ของผู้ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ โดยทุกอาชีพสามารถขอสินเชื่อได้ เพียงแค่มีเอกสารที่มาของรายได้ เช่น

พนักงานบริษัท - มีสลิปเงินเดือน, สมุดบัญชีบัญชีที่มีความเคลื่อนไหว อย่างน้อย 6 เดือน

แม่ค้า - มีสัญญาเช่า, สมุดจดรายรับ และ สมุดบัญชีบัญชีที่มีความเคลื่อนไหว อย่างน้อย 6 เดือน

3. รายได้และภาระใช้จ่าย

แสดงถึงความสามารถในการผ่อนภาระต่าง ๆ ในแต่ละเดือน ซึ่งปกติแล้วรายได้ควรเป็น 2 เท่า (X2) ของภาระทั้งหมด

อย่างไรก็ตามหากรวมจากทุกช่องทางแล้วยังไม่ถึงจริง ๆ ก็สามารถปรึกษาได้ ทางเรามีคำแนะนำให้

4. รถและเล่มทะเบียน

รถและเล่มทะเบียนรถยนต์ คือสิ่งสำคัญ ที่เปรียบเสมือนทรัพย์สิน ในการยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ รถที่มีคุณสมบัติ คือห้ามมีการเปลี่ยนแปลง เลขตัวถัง และ เลขเครื่อง และป้ายภาษีห้ามขาดเกิน 3 ปี

5. การแจ้งข้อมูลที่จริงกับเจ้าหน้าที่โดยไม่มีการปิดบัง

สำหรับใครอยากยื่นรีไฟแนนซ์รถให้ผ่านครั้งเดียว แอดแนะนำว่าเมื่อมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าหน้าที่แล้วให้แจ้งข้อมูลที่เป็นจริงทุกอย่าง และครบถ้วน อย่าปิดบังใด ๆ ทั้งสิ้น คิดเสมอว่าเขาคือคนที่พร้อมช่วยให้คุณผ่านการอนุมัติจากสถาบันการเงินจึงต้องรู้รายละเอียดทุกด้านเพื่อช่วยให้คำแนะนำและดันเคสของของคุณให้ผ่านได้ เช่น

- ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น บัตรประชาชน, ใบขับขี่

- ข้อมูลที่อยู่อาศัย เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และ ที่อยู่ปัจจุบันจริง

- ข้อมูลสถานที่ทำงาน เช่น ที่อยู่ทีทำงาน และ เบอร์ติดต่อจริง

- ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการผ่อน เช่น มีล่าช้า หรือ ติดเครติดบูโรช

- ข้อมูลรายได้ และ ความถูกต้องของตัวเอกสารต่าง ๆ เช่น สลิปเงินเดือน และ สมุดบัญชีบัญชีที่ข้อมูลเป็นปัจจุบัน

⚙️ เหตุผลที่อยากให้บอกข้อมูลทุกอย่างให้ครบถ้วนก็มีปัจจัยสำคัญดังนี้

- การแจ้งข้อมูลรุ่นรถ – เพื่อเช็คยอดจัดสินชื่อ/ ยอดกู้ให้ได้ถูกต้อง ถ้าแจ้งไม่ครบอาจได้ราคาประเมินที่ต่ำเกินไป

- การแจ้งประวัติเครดิตที่ไม่ถูกต้อง – เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำในการยื่นขอสินเชื่อได้ไม่ถูกต้องกับเคส และจะทำให้ยื่นแล้วไม่ผ่าน เสียเวลาลูกค้า

🛠 หากลูกค้าแจ้งข้อมูลที่แท้จริง เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ถึงปัญหาเครดิตของลูกค้า จะสามารถแนะนำวิธีแก้ไข และช่วยผลักดันให้ยื่นเรื่องให้ผ่านได้

ทั้งหมดนี้คือเทคนิคอันดีเยี่ยมสำหรับคนที่กำลังคิดจะรีไฟแนนซ์รถไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป้าหมายสำคัญสุดคงหนีไม่พ้นการผ่านอนุมัติ แล้วได้เงินก้อนมาใช้จ่าย หรือการยืดระยะเวลาการผ่อนชำระรถออกไปด้วยจำนวนเงินต่องวดที่ลดลง เพื่อเคลียร์ปัญหาด้านเงิน ๆ ทอง ๆ ของตนเองให้เรียบร้อย ลองนำไปทำตามกันดูเชื่อว่าช่วยให้ทุกคนสำเร็จได้อย่างไม่ยากเย็น วิธีรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบขั้นเทพตัวจริงที่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด

❤️ ข้อดีของการรีไฟแนนซ์กับเฟรนด์ชิพสบายแคช

1. บริการรีไฟแนนซ์ครบวงจร (ปิดยอด โอนเล่ม ย้ายไฟแนนซ์) ไม่จำกัดวงเงิน

2. วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน

3. อนุมัติไวเพียง 1-3 วันทำการ

4. ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.6% ต่อปี

5. ผ่อนชำระได้ระหว่าง 12-72 เดือน

6. รถไม่ต้องจอด

7. ผ่อนอยู่กู้ได้

8. บริการทำสัญญาทั่วประเทศ

ค่าธรรมเนียมชัดเจนไม่แอบแฝง (ไม่อนุมัติไม่คิดค่าบริการ)

#รีไฟแนนซ์รถ #จำนำทะเบียนรถ #สบายแคช